อีกทั้ง แผ่นสแตนเลสทยังง่ายต่อการสร้างและประกอบ ตัด เชื่อมให้ขึ้นรูปก็ได้ ง่ายต่อการบำรุงรักษาและทำความสะอาด สามารถออกแบบงานเพื่อลดความหนาบาง และน้ำหนักได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่นิยมนำมาใช้กัน
สแตนเลสแต่ละเกรดมีคุณสมบัติ ดังนี้
- สแตนเลส 304 - สแตนเลส 304L
ใช้งานทั่วไปไม่เป็นสนิม ทนต่อการกัดกร่อนสูง ใช้งานเชื่อมที่ดีกว่า ไม่เป็นสนิม เหมาะสำหรับงานแท้งค์ต่างๆ
สามารถขึ้นรูปเย็น และเชื่อมได้ดี ที่ปฏิกิริยากับกรดน้อย
- สแตนเลส 316 - สแตนเลส 316L
ใช้กับงานทนกรด ทนเคมี หรือเป็นเกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อย ใช้กับงานทนกรดที่เข้มข้นมากกว่า ทนเคมีมากกว่า หรือเป็น
เกรดที่ปฏิกิริยากับกรดน้อยมาก (มีความทนกรดมากกว่า)
- สแตนเลส 420/4202J2 - สแตนเลส 431
(มาตรฐานอเมริกา) 420J2 (มาตรฐานญี่ปุ่น)เป็นสแตนเลส เป็นสแตนเลสที่เคลือบแข็งที่ผิวมา สามารถนำไปชุบแข็ง
เกรดชุบแข็งสามารถนำไปชุบแข็งได้ (ชุบแล้วความแข็งขึ้น ได้เช่นกัน (ชุบแล้วความแข็งขึ้นประมาณ 50-55 HRC)
ประมาณ 58 HRC) แต่น้อยกว่าเกรด 420
- สแตนเลส 301 - สแตนเลส 310/310S
ใช้เกี่ยวกับงานสปริง คอนแทค สายพานลำเลียง ใช้กับงานทนความร้อนสุง 1,150 องศา งานเตาอบ เตาหลอม
ฉนวนกั้นความร้อน
- สแตนเลส 309/309S - สแตนเลส 409/409S
ใช้เกี่ยวกับงานทนความร้อนเช่นกัน 900 องศา ใช้กับงานอุปกรณ์ท่อไอเสีย ชิ้นส่วนผนังท่อเป่าลมร้อนต่าง ๆ
(น้อยกว่า 310/310S)
- Duplex Plate 2205/2207 - สแตนเลส 440C
ใช้งานขุดเจาะแก๊สและน้ำมัน อุตสาหกรรมเคมี ใช้งานชุบแข็งทำมีดประเภทต่าง งานแม่พิมพ์ตัดที่ต้องการความคมแข็งแรง
ปิโตรเคมี อุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อ
- สแตนเลส 630/17-4 PH
ใช้งานสเปคสูงทนสึกแข็งแกร่ง เหนียว ทนทาน เป็นเกรดที่ผลิตขึ้นเป็นพิเศษ งานอะไหล่เครื่องบิน
